หลังจากที่ไม่ได้มีการเปิดตัวมาพักหนึ่ง ในที่สุด Moto ก็ได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ออกมาพร้อมกันรวดเดียว 3 รุ่น ซึ่ง Moto G9 Play นั้นเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดที่เปิดตัวมาในครั้งนี้ และตัวเครื่องก็ได้มาอยู่ในมือทีมงาน Specphone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้เอาไปลองใช้มาระยะหนึ่ง เราจะมาเล่าประสบการณ์ในการใช้งานให้ทุกคนได้ฟังกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นไปชมกันได้เลย
สเปค Moto G9 Play
- หน้าจอ : IPS-LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 662
- แรม : 4GB
- หน่วยความจำ : 64GB
- กล้องหลัง :
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.7
- กล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 20W
- การเชื่อมต่อ :
- 4G LTE
- USB Type-C 2.0
- WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
- Bluetooth 5.0
- NFC
- GPS
- ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มม.
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10 (Pure Android)
- ระบบความปลอดภัย : ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ
- สี : Blue
- ขนาด : 165.2 × 75.7 × 9.2 มม.
- น้ำหนัก : 200 กรัม
- ราคา : 4,990 บาท
จุดเด่น
- ได้ Snapdragon 662 ในราคา 4,990 บาท
- เล่นเกมได้ลื่นทุกเกม
- เป็น Pure Android
- รองรับชาร์จเร็วขนาด 20W
- ยังมีช่องหูฟัง 3.5 มม.
ข้อสังเกต
- มีแค่สีเดียวให้เลือก
- กล้องถ่ายภาพโฟกัสและจับภาพช้า
- กล้องหน้าภาพไม่ค่อยคมเหมือนรุ่นอื่น ๆ ในเรทราคาเดียวกัน
- มีปุ่ม Google Assistant แยกชวนให้สับสน
การออกแบบ
Moto G9 Play เป็นมือถือแบบคุ้มค่าที่ให้สเปคมาค่อนข้างแรงทำให้ตัววัสดุนั้นเป็นพลาสติก ซึ่งผิวสัมผัสเป็นแบบเงา ช่วยชูให้สีเครื่องเด่นแบบเกินหน้าเกินตาพอควร แถมด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ทำให้จับได้ค่อนข้างถนัดมือดี แต่ก็นับว่าหนักมือไปนิด
G9 Play มาพร้อมหน้าจอ IPS-LCD ทรง Waterdrop Display ขนาด 6.5 นิ้ว ซึ่งมีความละเอียด 1600 x 720 (HD+) นับเป็นขนาดหน้าจอยอดนิยมสำหรับมือถือในเรทราคานี้ ขอบจอมีความหนาเล็กน้อย ส่งผมให้ตัวเครื่องมีความกว้างมากหน่อย
ที่บริเวณด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีเพียงช่องใส่ซิมแบบ Hybrid ส่วนที่ด้านขวาจะมีปุ่ม Google Assistant, ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power ส่วนที่ด้านบนจะมีรูไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน และถัดมาจะเป็นช่องหูฟัง 3.5 มม. ส่วนที่ด้านล่างจะมีรูไมโครโฟนสำกรัยสนทนา, พอร์ต USB Type-C และลำโพง
ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีโมดูลกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมไฟแฟลช LED วางอยู่ในโมดูลรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส และถัดลงมาจะเป็นโลโก้ Moto ที่เป็นจุดสแกนลายนิ้วมือในตัว
ประสิทธิภาพและการเล่นเกม
Moto G9 Play เป็นมือถือแบบ Pure Android หรือก็คือไม่มีการปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมจากที่ Google ปล่อยออกมาเลย ทำให้ตัวระบบมีความลื่นไหลเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้รับการอัพเดตระบบที่รวดเร็วกว่ามือถือรุ่นอื่น ๆ อีกด้วย และด้วยการที่เป็น Pure Android ทำให้ไม่มีแอปอย่างอื่นนอกจากแอปของ Google ติดตั้งมาเลยหลังเปิดเครื่องครั้งแรก
ในส่วนของการเล่นเกมนั้นด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 662 ส่งผลให้สามารถเล่นได้ทุกเกม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลาย ๆ เกมที่ไม่สามารถตั้งค่าให้สูงสุดได้ และถึงแม้จะตั้งค่าให้สูงสุดเท่าที่เครื่องจะสามารถทำได้แล้วก็ตาม ระหว่างเล่นก็ยังลื่นแบบที่ไม่น่าเป็นไปได้ โดยที่เห็นได้ชัดคือเกม RoV ที่ตั้งค่าแบบสูงที่สุดแล้วระหว่างเล่นไม่ว่าจะเป็นช่วงปกติหรือช่วงตะลุมบอนก็ตาม FPS ก็จะวิ่งอยู่ระหว่าง 59 – 61 ไม่ลงไปต่ำกว่านั้นเลย ซึ่งนับว่าเป็นอะไรที่ดีมาก นอกจากนี้ด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 20W ยังช่วยให้การชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ไม่ต้องรอนานเกินไป
การตั้งค่าสูงสุดที่ทำได้กับเกมที่เอามาใช้ทดสอบ (RoV, Call of Duty Mobile, LOL Wild Rift, PUBG Mobile)
RoV Call of Duty Mobile LOL Wild Rift PUBG Mobile
การถ่ายภาพ
ในเรื่องการถ่ายภาพนั้น G9 Play มาพร้อมกล้องหลังถึง 3 ตัวโดยจะประกอบไปด้วยกล้องหลักที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งคุณภาพของภาพถ่ายนั้นนับว่าใช้ได้ การวัดแสงทำได้ดี สีสันไม่เพี้ยน แต่จะมีปัญหาใหญ่ ๆ อยู่ข้อเดียว นั่นก็คือหลังจากที่กดถ่ายไปแล้วต้องใช้เวลาสักพักกว่ากล้องจะโฟกัสและทำการถ่ายภาพ ทำให้ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการถ่ายภาพที่วัตถุมีการเคลื่อนไหว หรือคนใจร้อนที่รอไม่ได้
สำหรับกล้องหน้านั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งปัยหาเรื่องการจับภาพช้านั้นก็มีเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นภาพที่ได้จากกล้องหน้าก็ไม่ได้ถือว่าแย่มากนัก การละลายหลังก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง เพียงแต่หากเอาไปใช้เซลฟี่ในที่ ๆ แสงน้อยมาก ต่อให้ใช้แฟลชก็ช่วยไม่ได้มากนัก Noise เยอะพอควร ถึงอย่างนั้นก็นับว่าดีแล้วหากมองที่ราคาตัวเครื่อง
สิ่งที่น่าสนใจคือถึงแม้กล้องจะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ฟีเจอร์ที่ระบบสามารถทำได้ก็นับว่าไม่น้อยเลย โดยเฉพาะโหมดสีเฉพาะจุดที่ค่อนข้างน่าสนใจ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพลงโซเชียล ไม่จำเป็นต้องเอารูปเข้าแอปเพืื่อดูดสีออกก่อนให้เสียเวลา
ตัวอย่างภาพถ่าย
Portrait Mode Night Mode Selfie with Flash Portrait Mode
สรุป
Moto G9 Play เป็นมือถือที่ดีไซน์ออกมาได้ค่อนข้างสวยทีเดียว แถมยังจับได้ถนัดมืออีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือความสามารถในการเล่นเกมได้ทุกเกมและระบบชาร์จเร็วที่เร็วกว่าเจ้าอื่น ๆ เล็กน้อย จะบอกว่าเป็นมือถือเล่นเกมสำหรับคนงบน้อยก็ว่าได้
นอกจากจะเอามาใช้เป็นมือถือเกมมิ่งงบน้อยแล้วยังเหมาะเอามาใช้เป็นมือถือสำหรับพ่อ-แม่หรือผู้สูงอายุใช้อีกด้วย เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ทำให้สามารถมองได้เต็มตา แถมด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นยังช่วยเป็นจุดสังเกตได้อีกด้วย
The post รีวิว Moto G9 Play Pure Android สเปคดี เล่นเกมลื่น ในราคาแค่ 4,990 บาท appeared first on Specphone.com.